Wednesday, March 4, 2015

เศร้า...หนูน้อย 7ขวบ ยอมตาย เพื่อสละไตให้แม่

Zhou Lu ผู้เป็นแม่ และ Chen Xiaotian ผู้เป็นลูกเคยมีชีวิตที่มีความสุข แต่วันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อหนูน้อยถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งสมองขั้นร้ายแรง และแพทย์วินิจฉัยว่าเขาจะมีชีวิตรอดได้ไม่ถึงช่วงวัยรุ่น เรื่องที่ว่าเศร้าแล้ว 1 เดือนถัดมา คุณแม่ของหนูน้อยก็ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคไตเช่นกัน
เรื่องราวของหนูน้อยเริ่มเลวร้ายหนักขึ้นไปอีก เมื่อเนื้องอกไปกดทับเสันประสาทตา จนทำให้หนูน้อยต้องตาบอดสนิท ต้องนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงอย่างโดดเดี่ยว แต่อาการของแม่เขาดีขึ้น ติดอยู่อย่างเดียวที่จะหายขาดได้คือต้องได้รับบริจาคไตอันใหม่
ซึ่งแพทย์ผู้ดูแล ก็ได้ให้คำปรึกษา และแนะนำว่า "ไต" ของลูกชาย ตรงกับแม่ แต่ผู้เป็นแม่ก็ทำใจยอมรับไม่ลง เหตุการณ์ไม่จบลงเท่านั้น เพราะหนูน้อยดันไปได้ยินการพูดคุยระหว่างแม่กับหมอเข้าพอดี
หนูน้อยจึงบอกกับผู้เป็นแม่ว่า "แม่ต้องสัญญาว่าจะรับไตของหนู เพราะหนูอยากช่วยชีวิตแม่"
ในที่สุดแม่ก็รับปากคำขอร้องจากหนูน้อย พร้อมบอกว่า "แม้ลูกจะตาย แต่หากไตที่เป็นดั่งอวัยวะหนึ่งในกายลูกยังอยู่ในตัวแม่ มันก็เหมือนกับว่าลูกยังคงอยู่เคียงข้างแม่ไม่ได้จากไปไหน"
จากนั้นก็มีการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะของหนูน้อยและแม่ ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า หนูน้อยกตัญญูและกล้าหาญมากๆ เพราะไตของเขาทำให้แม่รอดชีวิตได้ ในขณะที่ตับของหนูน้อย ก็ถูกบริจาคให้กับชายหนุ่มวัย 27 ทำให้ชายคนนั้นรอดจากความตายเช่นกัน

Wednesday, October 8, 2014

19 ประโยชน์อันน่าทึ่งของน้ำอัดลม

19 ประโยชน์อันน่าทึ่งของน้ำอัดลม

น้ำอัดลม ในปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อ หลายๆ สื่อก็มักจะบอกว่าน้ำอัดลมมีโทษต่างๆ นานา แต่วันนี้เราจะไม่พูดถึงโทษเราจะมาแนะนำถึงประโยชน์ของน้ำอัดลมล้วนๆ มีอะไรบ้างไปติดตามกันเลย

1. ขจัดคราบไขมันจากเสื้อผ้า
คราบไขมันถ้าเลอะติดเสื้อผ้าจะซักออกยาก น้ำยาทำความสะอาดก็แพง เวลาซักผ้าลองเทน้ำอัดลมสักกระป๋องลงไป กรดคาร์บอนิก และกรดฟอสฟอริก ที่อยู่ในน้ำอัดลมจะช่วยขจัดคราบนี้ได้ดี

2. ขจัดคราบสนิม
กรดฟอสฟอริกในน้ำอัดลมจะทำปฏิกิริยากับเหล็กออกไซด์ทำให้สนิมละลาย ซึ่งแน่นอนว่าประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำกว่าน้ำยาล้างสนิมทั่วไปอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึงความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมน้ำอัดลมชนะ

3. ล้างคราบเลือดออกจากเสื้อผ้า

4. ทำความสะอาดคราบน้ำมันในโรงรถ
เทน้ำอัดลมลงบนพื้นแล้วทิ้งไว้สักคืน เช้ามาก็ทำความสะอาดมันอีกครั้ง

5. กำจัดหอยและทาก
ที่มากัดกินต้นไม้ในสวนของคุณ เทน้ำอัดลมใส่ถ้วยวางไว้ในสวน ให้พวกหอยทากมากิน กรดในน้ำอัดลมจะเป็นอันตรายกับพวกมัน นอกจากนี้ยังสามารถมีผลต่อแมลงบางชนิดด้วยทำให้สูญเสียการบินไปเลย

6. ล้างคราบสกปรกก้นหม้อและก้นกะทะ
เพียงแค่เทน้ำอัดลมลงบนรอยดำของหม้อหรือกะทะ ตั้งบนเตา เปิดเตา แล้วรอให้มันไหม้ สักพักก็เอาไปขัดนิดๆ หน่อยๆ ก็ออก

7. ขจัดคราบสกปรกในกาต้มน้ำ
วิธีการก็คล้ายๆ กับล้างก้นหม้อ เทน้ำอัดลมในกาต้มน้ำ ตั้งไฟ ต้มให้ไหม้แล้วเอาไปขัดออก รอยดำในกาน้ำจะหายไป

8. ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ จะเทมาก เทน้ำก็แล้วแต่คน

9. ทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถคุณ
มีการเล่าว่าผู้จัดจำหน่ายน้ำอัดลมได้ใช้น้ำอัดลมทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถบรรทุกมาประมาณ 20 ปีแล้ว พวกคนที่ขับรถจัดส่งน้ำอัดลมในร้านขายของชำและปั๊มแก๊สแก๊ส บ่อยครั้งเขาก็ใช้น้ำอัดลมทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถบรรทุก

10. ทำความสะอาดเหรียญเก่าๆ แช่เหรียญไว้ในน้ำอัดลมทิ้งไว้ (ขนาดโลหะยังทำได้ขนาดนี้ นับประสาอะไรกับกระเพาะและฟันของเรา 555)

11. ล้างคราบสกปรกบนพื้นกระเบื้อง
เทโค้กบนกระเบื้องและปล่อยไว้สักครู่ จากนั้นก็ใช้แปรงหรือแปรงสีฟันขัดคราบสกปรกออก และควรรีบเช็ดออกให้หมดโดยเร็วก่อนก็ที่น้ำอัดลมจะติดกับพื้น

12. ขจัดหมากฝรั่งที่ติดผม
คุณอาจโชคดีที่ไม่ต้องตัดผมทิ้ง เพียงแค่แช่ผมที่ติดหมากฝรั่งกับน้ำอัดลม ไม่กี่นาทีแล้วล้างออก

13. ทำความสะอาดถ้วยลายคราม

14. ทำความสะอาดบันไดสระว่ายน้ำ
ถ้าคุณมีสระว่ายน้ำ ใช้น้ำอัดลมสัก 2 ลิตรล้างทำความสะอาดบันไดทางขึ้นลงสระว่ายน้ำอย่างน้อยสักปีละครั้ง

15. ทำสีผมให้จางลง
ถ้าคุณไปทำสีผมมา แต่มันดูเข้มไป ก็ใช้น้ำอัดลมล้างเส้นผม สีผมที่เข้มจะจางลง

16. ลบรอยหมึกบนพรม
ถ้าเด็กๆ ที่บ้านเผลอทำรอยหมึกเปื้อนพรม ไม่ต้องกังวล หยิบน้ำอัดลมมาราด แล้วนั่งรอไม่กี่นาที แล้วขัดออก

17. ล้างห้องน้ำ
ถ้าคุณไม่มีน้ำยาทำความสะอาด ไม่ต้องกังวล เทน้ำอัดลมสัก1-2 ขวด ปล่อยทิ้งไว้สัก 5-10 นาที และล้าง ถึงแม้ประสิทธิภาพน้อยกว่าน้ำยาล้างห้องน้ำแต่ก็ใช้แทนกันได้บางครั้ง

18. ทำความสะอาดโครเมี่ยมรถยนต์
ทำให้รถเก่าดูเหมือนใหม่อีกครั้ง เทน้ำอัดลมบนโครเมี่ยมที่มีรอยคราบสกปรกใช้ฟอยล์บางๆ ขัดสิ่งสกปรกน่ารังเกียจออกไป ล้างด้วยน้ำอุ่น และเช็ดให้แห้ง

19. ทำความสะอาดฟอร์นิเจอร์โลหะ
ก่อนทาสีใหม่ แช่ผ้าขนหนูในน้ำอัดลม และวางมันบนพื้นผิวสี ปล่อยไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก

ขอบคุณข้อมูลจาก

Thursday, July 17, 2014

ธงชาติไทยกับธงชาติประเทศอื่นๆ


ธงชาติ France ตั้ง น้ำเงิน ขาว แดง
Thai นอน แดง ขาว น้ำเงิน
Natherland นอน แดง ขาว น้ำเงิน
Russia นอน ขาว นำเงิน แดง

Saturday, June 29, 2013



เข้ามา Update ANTIVIRUS NOD32 เพื่อป้องกันไวรัสใหม่ๆ ที่เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

Sunday, May 5, 2013

New Google+ Users: Google+ Videos

Videos สาธิตการการใช้งาน Google+
New Google+ Users: Google+ Videos

I. Google+ Help Videos (NEW)

1. About profiles
2. Add and share photos
3. Edit your photos
4. Choose who can send notifications
5. Reshare and lock albums
6. Manage albums
7. Show or hide profile tabs
8. See who a post was shared with
9. About +1s

II. How to use Google+

1. Get started with Google+
2. Google+: Find People You Know
3. Google+: Fun with Hangouts

Circles & Sharing
4. Google+: Sharing
5. Google+: About Circles
6. Google+: Reading and Responding
7. Google+: Mention someone in a post
8. Google+: Visibility of content
9. Google+: See who a post is shared with
10. Google+: There's more to explore
11. Google+: Manage the content in your stream

Hangouts
12. Google+: Start a Hangout
13. Google: Let's Hangout...
14. Google+: Getting Started With Hangouts On Air
15. Google+: Broadcast Your Hangout To The World

Events
16. Google+ Events: Bon Voyage
17. Google+ Events: Make your invitations stand out
18. Google+ Events: Share event photos instantly with Party Mode
19. Google+ Events: See everyone's event photos in one place
20. Google+ Events: Creating an event with Google+
21. Google+ Events: Introducing a new way to get together

Photos
22. Google+: Share photo albums
23. Google+: Photo tagging
24. Google+: Organize your photos
25. Google+: Edit your Photos

Local
26. Google+ Local: See Reviews from your friends
27. Google+ Local: Decide with Zagat
28. Google+ Local: Review your favorite places
29. Google+ Local: Places you'll love, from people you trust

Mobile
30. Google+ for Android
31. Google+ for iPhone gets a new look
32. Google+: New Dad

More
33. Google+: Set Up Your Profile
34. Google+: Search and trending topics
35. Connect with friends the way you want with Google+ in Gmail
36. Google+: Pages
37. Google+: +1 across the web
38. Google+: Sharebox and Notifications
39. Google+: Switching between your profile and page
40. Google+ Communities: A place for whatever you're into
41. Google+: Customize Your Settings
42. Google+: Organize your ribbon

via Denis Labelle

Friday, May 3, 2013

วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก (World Press Freedom Day)


วันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก (World Press Freedom Day)..
3 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้เสนอให้สมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ (UN) ประกาศให้วันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี เป็น วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก (World Press Freedom Day) เพื่อย้ำเจตนารมณ์และหลักการที่เป็นพื้นฐานของเสรีภาพสื่อมวลชนทั่วโลก คือเสรีภาพในการคิดและการแสดงออก เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เสนอข้อเท็จจริงโดยเสรี และปลอดภัย เพราะในระยะหลัง ๆ นักข่าวที่ลงพื้นที่ภาคสนามได้มีจำนวนผู้เสียชีวิต ถูกจับเป็นตัวประกัน และถูกจับกุมเพิ่มมากขึ้น ต่อมาจึงได้ถือเอาวันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปีเป็น "วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก"
 
ประวัติความเป็นมาและความสำคัญ
          เมื่อปี 2534 องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เสนอให้สมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติประกาศให้วันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก เพื่อย้ำเจตนารมณ์และหลักการที่เป็นพื้นฐานของเสรีภาพสื่อมวลชนทั่วโลก ซึ่งก็คือเสรีภาพในการแสดงออก วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกต้นเดือนพฤษภาคมนี้เป็นวาระที่ประเทศต่างๆ รัฐบาล ประชาชน และสื่อมวลชนเองจะได้ร่วมกันปลุกจิตสำนึก พิจารณาและพัฒนาข้อคิดข้อเสนอต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพในการแสดงออกของสื่อมวลชน ทั้งยังเป็นโอกาสให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกร่วมกันเฉลิมฉลองและประเมินสถานการณ์ของเสรีภาพในการแสดงออกของสื่อมวลชน
          ถึงแม้การเฉลิมฉลองวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกเพิ่งเริ่มต้นเมื่อปี 2536 แต่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติมีมติรับรองเมื่อปลายปี 2491 ก็บัญญัติเรื่องเสรีภาพของสื่อมวลชนไว้ในข้อที่ 19 ว่า “ทุกคนมีสิทธิในอิสรภาพแห่งความเห็นและการแสดงออก สิทธินี้รวมถึงอิสรภาพในการที่จะถือเอาความเห็นโดยปราศจากการแทรกสอด และที่จะแสวงหา รับ และแจกจ่ายข่าวสาร และความคิดเห็นไม่ว่าโดยวิธีใดๆ และโดยไม่คำนึงถึงเขตแดน”
          วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกเป็นวันเดียวกันกับวันครบรอบการประกาศปฏิญญาวินด์ฮุค (Windhoek Declaration) ว่าด้วยการส่งเสริมสื่อมวลชนที่เป็นอิสระและหลากหลาย ปฏิญญานี้ ประกาศในวันสุดท้ายของการสัมมนาว่าด้วยการส่งเสริมสื่อมวลชนแอฟริกาที่เป็นอิสระและหลากหลาย ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองวินด์ฮุค ประเทศนามิเบีย ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2534 ปฏิญญาวินด์ฮุคเรียกร้องให้ก่อตั้ง ส่งเสริม และทำนุบำรุงสื่อที่เป็นอิสระและมีรูปแบบและเนื้อหาหลากหลาย ปฏิญญานี้ย้ำว่าสื่อที่เป็นอิสระสำคัญต่อการพัฒนา และคงไว้ซึ่งประชาธิปไตย และการพัฒนาเศรษฐกิจ
          เสรีภาพของสื่อมวลชนเถือเป็นรากฐานของสิทธิมนุษยชนและเป็นหลักประกันเสรีภาพอื่นๆ ด้วย เสรีภาพของสื่อมวลชนกระตุ้นให้เกิดความโปร่งใสและธรรมาภิบาล ซึ่งจะประกันว่าสังคมจะได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง
          นอกจากนี้ ยังเป็นสะพานสู่ความเข้าใจและความรู้ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวัฒนธรรมระหว่างประเทศต่างๆ อันเป็นเงื่อนไขที่ก่อให้เกิดความเข้าใจที่แท้จริงและความร่วมมือระหว่างประเทศที่ยืนนาน
          ในวันที่ 3 พฤษภาคมทุกปี องค์กรที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนทั่วโลกย้ำเตือนรัฐบาลทุกประเทศให้ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามพันธะสัญญาที่จะเคารพสิทธิในการแสดงออกของสื่อมวลชน

ขอบคุณข้อมูล http://www.gotoknow.org/posts/259022

Monday, April 29, 2013

การทดสอบฝีเท้าของ คริสเตียโน โรนัลโด้

เรื่องน่าอ่านจาก จากประวัติของ คริสเตียโน โรนัลโด้ 
ย้ำ ควรอ่าน !!!

จากนักเตะที่หลายๆ คนมองว่า เป็นนักบอลที่เห็นแก่ตัวเอง แต่ใครจะไปรู้ว่า ตัวจริงของเขาเป็นอย่่างไร จนกว่าจะได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จบเสียก่อน

"ผมต้องขอบคุณเพื่อนเก่า อัลเบิร์ต ฟานทรัว สำหรับความสำเร็จในอาชีพลูกหนังของผม พวกเราเล่นอยู่ในทีมเดียวกันสมัยยังเด็กกับทีมท้องถิ่น

ต่อมาวันหนึ่ง ผู้จัดการทีมสปอร์ตติ้ง ลิสบอน เดินทางมาดูฝีเท้าของพวกเราทั้งคู่ ก่อนบอกว่า เกมวันนี้ใครยิงประตูได้มากกว่า เขาจะเซ็นสัญญากับคนนั้นเข้าเป็นเด็กฝึกหัดในสโมสร"

โรนัลโด้ เล่าต่อว่า "เกมนัดนั้น ทีมของพวกเราเอาชนะคู่แข่งได้ 3-0 ผมยิงประตูแรกด้วยการโซโล่เดี่ยว ส่วนประตูที่สอง อัลเบิร์ต ฟานทรัว โหม่งทำประตูได้ 

ไฮไลต์มันอยู่ที่ประตูที่สาม จังหวะนั้น อัลเบิร์ต ได้ดวลเดี่ยว ตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตู ด้วยทักษะของเขา เขาล็อกหลอก เลี้ยงผ่านผู้รักษาประตูได้อย่างง่ายดาย ผมได้แต่วิ่งประคองตามไปเท่านั้น ณ.จุดนี้สิ่งที่เขาต้องทำ คือยิงประตูที่เปิดโล่งรออยู่ 

แต่ อัลเบิร์ต กลับจ่ายบอลมาให้ผมยิงประตูที่สามแทน ผมได้เป็นเด็กฝึกหัดของ สปอร์ตติ้ง ลิสบอน 

หลังจบเกม ผมเข้าไปถาม อัลเบิร์ต ว่า ทำไมไม่ยิงเอง เขาตอบกลับมาว่า เพราะผมเหมาะสม และเก่งกว่าเขา"

หลังจากที่ บทสัมภาษณ์นี้เป็นข่าวออกไป นักข่าวบุกไปที่บ้านของ อัลเบิร์ต ฟานทรัว เพื่อถามว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เขาตอบว่าเป็นความจริง 

และ อัลเบิร์ต ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากแมทช์นั้นไม่นาน เขาก็เลิกเล่นบอล และตอนนี้เขาก็ยังไม่มีงานทำ

แต่นักข่าวกลับสงสัย ทำไม บ้านของอัลเบิร์ต อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงรถยนต์ ถึงดูหรูหรา มีระดับ ไม่ต่างจากเศรษฐี 

นักข่าวเลยถาม อัลเบิร์ต ถึงของเหล่านี้ ได้มาได้อย่างไร

อัลเบิร์ต ยิ้มนิดๆ ก่อนตอบอย่างภาคภูมิใจว่า "ทุกสิ่งอย่างมาจาก โรนัลโด้"

Thursday, April 25, 2013

ป้าต้อย กะเทยสู้ชีวิต


อยากให้เพื่อนได้อ่านนะค่ะ

"เป็นกะเทย ป้ายอมรับ แต่ป้าจะไม่ยอมทำไม่ดี ไม่ได้อยากได้ของใคร ไม่อยากเป็นปัญหาของใคร"  นี้คือคำพูดของป้าต้อย

ป้าต้อย สาวประเภทสองวัย 53 ปี เธอคือซุปตาร์เมืองนนท์ เพราะชื่อเสียงเรียงนามของเธอเป็นที่รู้จักดีของชาวเมืองนนทบุรี เวลามีงานบุญ งานบวช หรือวันไหนที่ตรงกับวันพระ ก็จะเห็นป้าต้อยไปช่วยเป็นโฆษก คอยประกาศเชิญชวนให้ญาติโยมมาร่วมกันทำบุญ รวมทั้งคอยไปสร้างสีสัน เรียกเสียงหัวเราะให้กับงานบุญต่างๆ มาโดยตลอด จนเป็นภาพที่ชินตา ป้าต้อย ยึดอาชีพขายขนมใส่ไส้มากว่า 35 ปี นับว่าเธอเป็นแม่ค้าขนมใส่ไส้คนเดียว ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ที่ใส่ชุดราตรีเดินขายขนม เธอมีเอกลักษณ์การขายที่โดดเด่น เพราะเธอจะส่งเสียงร้องว่า “ไส้ ไส้ ไส้ ไส้ ไส้ จ้า” นอกจากนี้ ป้าต้อยยังเป็นแม่ค้าที่มีวลีฮิตติดปากว่า “สบายใจดี” เพราะไม่ว่าจะถามอะไรเธอก็ตาม เธอก็จะยิ้มแฉ่งพร้อมกับตอบว่า “ก็มันสบายใจดี” แม้การแต่งตัว แต่งหน้าของป้าต้อยในแต่ละวัน อาจจะทำให้ลูกค้ารู้สึกแปลกๆ หรือมีข้อสงสัยในตัว ป้าต้อยอยู่บ้าง แต่กระนั้นก็ยังช่วยอุดหนุนขนมแกจนขายหมดทุกวัน 

ป้าต้อย เป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง เพราะเธอเกิดมาเป็นคนที่สติไม่ค่อยสมประกอบ แถมพ่อแม่ของตัวเองยังเกลียดชัง ป้าต้อยจึงใช้ชีวิตอยู่กับยายตาบอดตามลำพังมาตั้งแต่เล็กๆ เมื่อป้าต้อยโตจนเริ่มทำงานได้ ป้าต้อยก็เป็น เสาหลักในการหารายได้เลี้ยงดูยายไม่ว่าจะทำงานเก็บขยะ รับจ้างเก็บศพหมาที่โดนรถชนไปทิ้ง รวมทั้งขายขนมใส่ไส้ ดังนั้นในชีวิตของเธอ เธอจึงรักยายมากที่สุด เพราะยายมอบความรัก ความอบอุ่นให้กับเธอ ยามเมื่อยายเจ็บป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ป้าต้อยก็ดูแลยายเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องข้าวปลาอาหาร ดูแลทำความสะอาด เรื่องการขับถ่ายอย่างไม่รังเกียจ จนชาวบ้านต่างชื่นชมว่าป้าต้อยเป็นคนกตัญญู ครั้นเมื่อยายเสียชีวิต ป้าต้อยก็ใช้ชีวิตตามลำพังมาโดยตลอด แต่ในหัวใจของเธอยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความคิดถึงยายอยู่เสมอ หลายๆ คนที่รู้เบื้องหลังชีวิตของป้าต้อย ต่างก็ชื่นชมและยกย่องว่าป้าต้อยเป็นคนดีคนหนึ่ง เพราะถึงแม้เธอจะสติปัญญาไม่สมประกอบ แต่ยังเป็นคนที่รู้จักทำมาหากิน ไม่ขอใครกิน ไม่เบียดเบียนใคร และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน 

ป้าต้อยเป็นคนที่ขยันทำมาหากินไม่เคยมีวันหยุด ไม่ว่าฝนจะตก อากาศจะร้อนขนาดไหน ป้าต้อยก็ไม่สนใจ เธอจะตั้งหน้าตั้งตาขายขนมท่าเดียว ยกเว้นแต่ว่าวันไหนที่คนทำขนมใส่ไส้หยุด หรือเธอต้องไปร่วมงานบุญสำคัญๆ เธอถึงจะยอมหยุด  เพื่อน ๆ อ่านแล้วอย่าได้คิดยอมแพ้ป้าต้อยนะค่ะ  ป้าแกยังสู้เลย  แล้วเราทำมัยถึงจะไม่สู้ค่ะ  สู้ ๆๆ ค่ะ หมวยเป็นกำลังใจให้ค่ะเพื่อน ๆ ^______<

via : Sureeporn longnil

Tuesday, February 12, 2013

001 โรงปูนบางซื่อ


บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ถือกำเนิดขึ้นจากพระบรมราชานุญาตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด ตามทะเบียนเลขที่ 6 ในชื่อ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัดสินใช้ มีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2456 ซึ่งถือเป็นวันเกิดบริษัท SCG

via https://www.facebook.com/pages/SCG-Heritage/248927991849837